หนีความตายจาก “มะเร็งระยะสุดท้าย”โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์29 มกราคม 2552 08:43 น.

หลายคนพอรู้ตัวว่าเป็น “มะเร็งระยะสุดท้าย” อยู่ได้เพียงไม่กี่เดือนก็ตาย เพราะรับรู้ได้ถึงเงาของมัจจุราชที่ยืนอยู่ใกล้ร่างเต็มที จากร่างที่เคยมีแรง กลับทรุดตัวลง เหมือนคนไร้วิญญาณไปชั่วขณะ ผวา หวาดกลัว สมอง ณ ห้วงเวลานั้น สร้างภาพความคิดสลับขึ้นมามากมาย “เราจะตายหรือเปล่า” “ไม่ตายสิ มันไม่จริง” “หมอตรวจผิดหรือเปล่า” “สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยลูกช้างด้วย” “ถ้าเป็นมะเร็งจริง จะมีทางรักษามั้ยเนี่ย” “โอ๊ย...เครียด” ??

ความคิดดังกล่าวผุดขึ้นลงซ้ำซาก เวียนวนนึกคิดอยู่ตลอดเวลา เหมือนคนจิตไม่ปกติ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ส่งผลให้สภาพจิต และสภาพกายแย่ลงทุกวัน แย่จนไม่อยากทนความเจ็บปวด และทนทรมานกับโรคร้ายที่เป็นอยู่ได้อีกต่อไป

นพ.สำราญ อาบสุวรรณ “มะเร็ง” โรคร้ายรักษาได้ ด้วยอาหารบำบัด
นพ.สำราญ อาบสุวรรณ อายุ 58 ปี หนึ่งในผู้ป่วยที่เคยตรวจพบมะเร็ง เมื่อปี พ.ศ.2546 โดยตรวจพบมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ซึ่งเชื้อดังกล่าวได้ลุกลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง และกระจายไปส่วนต่างๆ ของร่างกายเกือบทุกส่วนแล้ว จนหมอต้องบอกว่า สามารถยื้อชีวิตได้เพียง 3-4 เดือนเท่านั้น

“ขณะนั้นผมอายุ 54 ปี หลังได้ยินประโยคคำพูดของหมอ บอกตามตรงว่าหัวใจเต้นถี่ และแรงมาก จากร่างกายที่เคยเป็นคนแข็งแรง กลับต้องมาทรุดตัวลงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จึงหวนคิดกับตัวเองว่า เราเป็นมะเร็งได้อย่างไร เพราะตรวจสุขภาพ กินอาหาร และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมาโดยตลอด” นพ.สำราญ เผยถึงความรู้สึก

ก่อนจะไปพบหมอ นพ.สำราญ เล่าอาการว่า จะเจ็บชายโครงด้ายขวา หอบเหนื่อยผิดปกติ หลังจากวินิจฉัยแล้ว พบก้อนที่ปอดข้างขวา มีน้ำท่วมปอด 200 ซีซี เชื้อมะเร็งลุกลามไปยังเยื้อหุ้มปอด ต่อมขั้วปอด กระดูกซี่โครงที่ 7 กระดูกไขสันหลังที่ 5 กระดูกสะบัก 2 ข้าง ต่อมหมวกไตข้างขวา และไหปลาร้า 2 ข้าง ถูกมะเร็งกินหมด หมอบอกว่า อยู่ได้อย่างมาก 4 เดือน ตอนนั้นคิดมาก หัวใจหดหู่จนไม่อยากทำอะไร แม้กระทั่งข้าวก็ไม่อยากกิน

หลายปีผ่านไป นพ.สำราญ ได้ย้อนนึกถึงน้องสาวที่เคยป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเหมือนกัน แต่กลับรักษาหายได้อย่างปาฏิหาริย์ จึงขอคำแนะนำ และพบว่า เธอใช้การแพทย์แบบผสมผสาน หรือแพทย์ทางเลือก ซึ่งเป็นการรักษาพยาบาลอีกรูปแบบหนึ่ง แตกต่างไปจากแพทย์แผนปัจจุบัน เน้นการรักษาตามธรรมชาติแทนการใช้ยาเคมี เช่น เลือกสรรอาหาร พืชผัก สมุนไพร ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย การออกกำลังกายเสริมสร้างสุขภาพ การพักผ่อน การฝึกควบคุมอารมณ์และจิตใจเหล่านี้ ล้วนเป็นวิถีเพื่อสุขภาพที่ประหยัดตามแนวรักษาแบบธรรมชาติ เพื่อสร้างเสริมภูมิชีวิต และภูมิต้านทานต่อโรคที่แข็งแรง

“ผมใช้แพทย์ทางเลือกแนวธรรมชาติบำบัดควบคู่กับแพทย์แผนปัจจุบัน 2 เดือน ก้อนมะเร็งยุบไป 20% ให้ยาเคมี 6 ชุด จนกระทั่ง 9-10 เดือน หลังให้เคมีบำบัดก้อนยุบไปหมด จากนั้นจึงใช้แพทย์ทางเลือก โดยใช้หลักของ เกอร์สัน เทอราปี (อาหารบำบัดรักษามะเร็ง) ในการดูแลตัวเองเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ผมอยากจะบอกคนที่รู้ตัวว่าเป็นมะเร็ง อย่าคิดในกรอบ ให้คิดนอกกรอบ เพราะมะเร็งคือโรคที่หายโดยเรา 50% หมอ 50% ด้วยการปรับวิถีการกิน เลือกอาหารสุขภาพ เช่น ผัก และผลไม้ มีการล้างพิษ หรือทำดีท็อกซ์บ้าง เป็นต้น” นพ.สำราญ แนะนำพร้อมเผยวิธีการดูแลตัวเอง

นอกจากนี้ นพ.สำราญ ยังให้ความรู้เสริมว่า ปกติร่างกายของมนุษย์ทุกคน จะมีเซลล์ที่กลายพันธุ์ จนกลายเป็นเซลล์มะเร็งกระจัดกระจายอยู่ตามเนื้อเยื่อตามอวัยวะของร่างกายอยู่แล้ว ซึ่งคาดการณ์ว่า ทุกหนึ่งวินาที จะมีเซลล์มะเร็งแตกตัวออกมาประมาณ 1,000-10,000 เซลล์ แต่ทั้งนี้ ปัจจัยเร่งให้เกิดเซลล์มะเร็ง ส่วนหนึ่งมาจากยีนมะเร็งที่ได้รับการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ของพ่อแม่คิดร้อยละ 5 ส่วนพฤติกรรม และวิถีชีวิตจากสิ่งแวดล้อม ก็เป็นเหตุปัจจัยหลักถึง 90-95% ของการเกิดเซลล์มะเร็ง เช่น การกินอาหาร วิตามิน เกลือแร่ แร่ธาตุ น้ำ อากาศที่ไม่บริสุทธิ์ สารพิษ สารเคมี ยาสังเคราะห์ สารอนุมูลอิสระ ระบบภูมิคุ้มกัน ขาดการออกกำลังกาย พักผ่อนไม่เพียงพอ ใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ เคร่งเครียด หรือแม้กระทั่งขาดการสะสมบุญ ล้วนมีอิทธิพลต่อการเกิด “โรคมะเร็ง” ได้ทั้งสิ้น

หยุดบริโภคเนื้อสัตว์ เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งร้าย นานาชนิด
<!-- / message -->
http://board.agalico.com/showthread.php?t=26440
vbrep_register("136099")<!-- controls -->